ผศ.ดร กฤษณะ บุหลัน
ผู้อำนวยการและผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันกายจิต
CEO ที่เติบโตสู่เกมใหญ่ระดับโลกต้องรบแบบมีอาวุธทางกลยุทธ์ ไม่ใช่ใช้แค่ประสบการณ์และความสำเร็จที่เคยมี
ในโลกธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงและเป็นไปอย่างรวดเร็ว การใช้แค่ ประสบการณ์ และ ความสำเร็จในระดับท้องถิ่น ไม่สามารถทำให้ CEO และองค์กรของเราไปถึงจุดสูงสุดในตลาดโลกได้
มองไปที่ประเทศที่ประสบความสำเร็จระดับโลกอย่าง สิงคโปร์ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้ management tools ระดับสากลเพื่อแข่งขันในตลาดโลก โดยการนำกลยุทธ์และเครื่องมือที่ทันสมัยมาใช้ในการจัดการองค์กร นอกจากการมีทักษะในการตัดสินใจแล้ว พวกเขายังให้ความสำคัญกับการใช้ เครื่องมือทางกลยุทธ์ ที่ช่วยให้สามารถ วิเคราะห์ และ ปรับตัว ได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดโลก
ในขณะที่ประเทศไทยของเรายังมีแนวโน้มที่จะพึ่งพาความสำเร็จที่ได้จากประสบการณ์ในตลาดท้องถิ่น แต่การที่จะเติบโตสู่ ตลาดโลก จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน และใช้เครื่องมือที่มีมาตรฐาน ระดับสากล ในการบริหารจัดการ เพื่อทำให้การตัดสินใจทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ปัญหาที่ CEO ต้องกลัว:
1. การใช้กลยุทธ์ที่ล้าหลัง: ถ้าองค์กรใช้แค่กลยุทธ์ที่ได้ผลในตลาดท้องถิ่น การนำไปใช้ในตลาดโลกอาจทำให้พลาดโอกาสสำคัญและเสี่ยงต่อการตกเป็นผู้ตามแทนที่จะเป็นผู้นำ
2. การไม่ปรับตัวตามมาตรฐานโลก: การไม่ใช้เครื่องมือที่เหมาะสมและทันสมัยในระดับสากลอาจทำให้องค์กรพลาดในการแข่งขันและมีประสิทธิภาพในการดำเนินงานต่ำลง
3. การสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน: คู่แข่งระดับโลกใช้เครื่องมือที่มีมาตรฐานและทันสมัย ซึ่งอาจทำให้เราตกยุคหากยังพึ่งพาแค่การตัดสินใจแบบ Local Success
ทางแก้ไข: ใช้เครื่องมือกลยุทธ์ที่เหมาะสม
การนำเครื่องมือกลยุทธ์ระดับสากลมาใช้จะช่วยให้ CEO และ องค์กร มีอาวุธในการแข่งขันที่แข็งแกร่งขึ้น และสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ ที่เกิดจากการพึ่งพาประสบการณ์ในตลาดท้องถิ่นเพียงอย่างเดียว
1. วิเคราะห์สถานการณ์ (Situation Analysis)
การเข้าใจทั้งปัจจัยภายในและภายนอกที่ส่งผลต่อธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญในการเตรียมพร้อมสู่การแข่งขันในระดับโลก
1.1 SWOT Analysis
การวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และภัยคุกคามในตลาดจะช่วยให้คุณมีภาพรวมที่ชัดเจนในการพัฒนาองค์กร
• Strengths: จุดแข็งที่องค์กรมี
• Weaknesses: จุดอ่อนที่ต้องปรับปรุง
• Opportunities: โอกาสในตลาดที่สามารถใช้ได้
• Threats: อุปสรรคที่ต้องเผชิญ
1.2 PESTEL Analysis
การประเมินปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจใน 6 ด้าน ได้แก่ การเมือง เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม และกฎหมาย จะช่วยให้คุณเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น
1.3 Five Forces Model
การประเมินสภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรมและอำนาจต่อรองในตลาด:
• อำนาจต่อรองของลูกค้า
• อำนาจต่อรองของซัพพลายเออร์
• ภัยคุกคามจากคู่แข่งใหม่
• ภัยคุกคามจากสินค้า/บริการทดแทน
• การแข่งขันในอุตสาหกรรม
2. กำหนดเป้าหมายและกลยุทธ์ (Goal Setting & Strategy Design)
การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและการเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมคือการสร้างความมั่นคงในองค์กร
2.1 SMART Goals
การตั้งเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมและสามารถวัดผลได้:
• Specific (เฉพาะเจาะจง)
• Measurable (วัดผลได้)
• Achievable (ทำได้จริง)
• Relevant (สอดคล้องกับวิสัยทัศน์)
• Time-bound (มีกรอบเวลา)
2.2 Growth Strategy (Ansoff Matrix)
การขยายธุรกิจในทิศทางต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการเติบโต:
• Market Penetration: เพิ่มส่วนแบ่งตลาดในตลาดเดิม
• Market Development: ขยายเข้าสู่ตลาดใหม่
• Product Development: พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่
• Diversification: ขยายไปยังธุรกิจใหม่
3. การออกแบบแผนกลยุทธ์ (Strategic Planning)
การสร้างแผนกลยุทธ์ที่สามารถดำเนินการได้จริงและประเมินผลได้
3.1 Balanced Scorecard (BSC)
การใช้ BSC ในการประเมินผลการดำเนินงานใน 4 ด้านหลัก:
• การเงิน: เพิ่มรายได้ ลดต้นทุน
• ลูกค้า: สร้างความพึงพอใจ
• กระบวนการ: ปรับปรุงกระบวนการทำงาน
• การเรียนรู้และการเติบโต: พัฒนาบุคลากรและนวัตกรรม
3.2 OKRs (Objectives and Key Results)
การกำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน และการวัดผลสำเร็จได้อย่างมีระบบ
4. การนำไปปฏิบัติ (Implementation)
การนำแผนกลยุทธ์ไปปฏิบัติอย่างมีระเบียบและประสิทธิภาพ
4.1 Action Plan
• กำหนดงาน (Tasks)
• ผู้รับผิดชอบ (Ownership)
• กรอบเวลา (Timeline)
• ทรัพยากรที่ต้องใช้ (Resources)
4.2 RACI Matrix
การแบ่งบทบาทและความรับผิดชอบในการทำงาน:
• Responsible (ผู้รับผิดชอบ)
• Accountable (ผู้ตัดสินใจ)
• Consulted (ผู้ให้คำปรึกษา)
• Informed (ผู้ที่ต้องรับรู้)
5. การติดตามผลและปรับปรุง (Monitoring & Review)
การติดตามผลลัพธ์และการปรับปรุงแผนกลยุทธ์ตามความเหมาะสมเพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืน
5.1 Key Performance Indicators (KPIs)
การกำหนดตัวชี้วัดที่สำคัญเพื่อการวัดผลการดำเนินงาน
5.2 Feedback Loop
การรับข้อมูลย้อนกลับจากลูกค้าและทีมงานเพื่อนำมาปรับปรุงกลยุทธ์
สรุป
การพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระดับโลกนั้นจำเป็นต้องใช้ กลยุทธ์ที่ชัดเจนและเครื่องมือที่ทันสมัย ที่สามารถนำมาปรับใช้ในองค์กรได้จริง ในขณะที่คู่แข่งระดับโลกใช้เครื่องมือที่มีมาตรฐานและทันสมัย เราก็จำเป็นต้องก้าวให้ทัน หากยังพึ่งพาความสำเร็จในตลาดท้องถิ่นเพียงอย่างเดียว การใช้ management tools ที่เป็นสากลจะช่วยให้คุณนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จในระดับโลกได้อย่างมั่นคง
ผู้เขียน: ผศ.ดร.กฤษณะ บุหลัน “ Strategy Master”